สารกรองน้ำ – คุณสมบัติและวิธีการเลือกใช้

water-filter

ต้องบอกว่าทุกวันนี้ความกังวลเกี่ยวกับคุณภาพน้ำเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากการขยายตัวของเมืองและเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว รวมถึงการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศที่ร้อนขึ้นส่งผลต่อความเสื่อมโทรมของคุณภาพน้ำ

เรื่อง การปรับคุณภาพน้ำ จึงได้รับความสำคัญมากขึ้นในกลุ่มครัวเรือน โรงแรม วงการอาหารและยา เครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ ไปจนถึงกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม 

ในบทความนี้วินวอเตอร์นำข้อมูลเรื่องคุณสมบัติและวิธีการเลือกใช้ “สารกรอง” เพื่อให้ตอบโจทย์ตามจุดประสงค์ของการใช้งาน รวมถึงการคำนวณปริมาณสารกรองเพื่อปรับสภาพน้ำให้มีประสิทธิภาพ

 

เนื้อหาทั้งหมด

 

สารกรองน้ำ 

สารกรองน้ำ คือ สารที่ใช้ในการกำจัดสารปนเปื้อนและสารแขวนลอยในน้ำ ซึ่งมีลักษณะและคุณสมบัติการกรองที่แตกต่างกันไป โดยสารกรองนิยมใช้ในการกรองน้ำบาดาลและน้ำประปาเพื่อบำบัดน้ำให้ได้คุณภาพก่อนนำไปอุปโภค

 

Filters

 

จริงๆในกระบวนการบำบัดน้ำ สารกรอง คือหัวใจสำคัญต่อการใช้งานในหลายอุตสาหกรรมมาก โดยเฉพาะด้านวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ โรงงานเครื่องจักร  การผลิตอาหาร การเกษตร การประกอบยานยนต์ การชงกาแฟ รวมถึงโรงแรม และที่สำคัญที่สุดคือ โรงงานผลิตน้ำดื่มและการแปรรูปอาหาร

ทุกวันนี้สารกรองน้ำมีหลากหลายชนิดมากในท้องตลอด สารกรองแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป แต่ไม่ใช่ว่าจะใส่สารกรองชนิดไหนก็ได้เพื่อกรองน้ำ แต่ต้องทราบถึงสภาพปัญหาน้ำดิบก่อน

 

สารกรองมีคุณสมบัติอย่างไร

ทำไมเราถึงต้องทราบคุณสมบัติสารกรองน้ำ? เพราะในแต่ละพื้นที่มีปัญหาสภาพน้ำที่แตกต่างกัน และอุตสาหกรรมแต่ละกลุ่มต้องการผลลัพธ์ที่ไม่เหมือนกัน 

การติดตั้งระบบกรองน้ำใช้ จึงต้องโฟกัสเรื่อง การเลือกสารกรองให้ตรงกับปัญหาสภาพน้ำที่เจอ หลักๆสารกรองที่นิยมใช้ปัจจุบันจะมีทั้งหมด 5 ประเภท: (ทราย คาร์บอน แอนทราไซต์ แมงกานีส เรซิ่น)

 

Filter-substance

 

  • สารกรองคาร์บอน (Activated Carbon)  เป็นผงถ่านที่มีลักษณะเป็นเม็ดสีดำขนาดเล็ก ซึ่งสารกรองคาร์บอนคุณสมบัติ คือกำจัดความขุ่น สารแขวนลอย สารอินทรีย์ กลิ่น คลอรีน และสีในน้ำที่เกิดจากสารอินทรีย์ โดยสารกรองคาร์บอนมีคุณสมบัติเป็นตัวดูดซับ ทำให้หมดกังวลเรื่อง รส กลิ่น และสี

 

  • สารกรองทราย ( (Sand and Gravel High Grade))  มีลักษณะเป็นกรวดทรายตามธรรมชาติซึ่งจะมีหลายขนาด มีคุณสมบัติในการกำจัดความขุ่น สารแขวนลอย ฝุ่นตะกอนขนาดเล็ก-ใหญ่ที่ปนเปื้อนมากับน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพโด ข้อดีของสารกรองทรายคือมีต้นทุนที่ต่ำกว่าสารกรองชนิดอื่นๆ

 

  • สารกรองแอนทราไซท์ (Anthracite) มีลักษณะเป็นเม็ดกลมๆ สีดำมันวาว เป็นสารกรองที่ทำมาจากถ่านหินมีธาตุคาร์บอนสูงที่สุดในกลุ่มถ่านทั้งหมด ทำหน้าที่กรองตะกอน สารแขวนลอย  โคลนตม และดักจับสารแขวนลอยที่ปนเปื้อนมาได้กับน้ำได้ดีกว่าทราย ซึ่งสารกรองชนิดนี้นิยมใช้ในการกรองน้ำบาดาลและกลุ่มอุตสาหกรรม 

 

  • สารกรองแมงกานีส (Manganese) ลักษณะเป็นเม็ดกลม มีสีน้ำตาลจนถึงสีดำ มีคุณสมบัติเด่นในการกำจัดเหล็ก สนิมเหล็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสารละลายเหล็กที่ปะปนมากับน้ำ ส่วนใหญ่พบมากในน้ำบาดาล ซึ่งสารกรองแมงกานีสสามารถออกซิไดซ์เหล็กและแมงกานีสที่ละลายอยู่ในน้ำ เพื่อให้ได้น้ำที่สะอาด

 

  • สารกรองเรซิ่น หรือ Ion Exchange Resins มีลักษณะเป็นเม็ดทรงกลมขนาดเล็กสีเหลือง มีคุณสมบัติในการกำจัดความกระด้าง, หินปูน, แคลเซียม, และแมกนีเซียม หรือในการทำน้ำอ่อน ในระบบบำบัดน้ำ อุตสาหกรรมน้ำใช้ โดยใช้หลักการทำงานแลกเปลี่ยนประจุระหว่างสารกรองกับประจุในน้ำ

 

เมื่อเราทราบคุณสมบัติของสารกรองจะช่วยเลือกสารกรองที่เหมาะสมกับสภาพน้ำดิบ  และช่วยเพิ่มคุณภาพน้ำให้ดีขึ้น สะอาด ปลอดภัย มีประสิทธิภาพในนำไปอุปโภค

 

วิธีการเลือกสารกรอง

แล้วเราจะทราบได้อย่างไร ว่าน้ำดิบของเรานั้นมีปัญหาตรงไหนบ้าง เพราะหากมองด้วยตาเปล่าแทบจะบอกไม่ได้เลย รู้อีกทีสิ่งเหล่านั้นก็ปรากฏให้เห็นบนสุขภัณฑ์ของเราแล้ว เช่น คราบเหลืองตามอ่างล้างหน้า คราบขาวที่เกาะบนก๊อกน้ำ

 

Filter-changing

 

การเลือกสารกรองให้เหมาะสมและปรับคุณภาพน้ำให้ได้ประสิทธิภาพควรคำนึงถึง:

  1. ประเภทน้ำ: แหล่งน้ำที่ต้องการบำบัด เช่น บ่อน้ำ น้ำประปา น้ำบาดาล
  2. ปัญหาน้ำที่พบ: การระบุปัญหาที่พบได้จะช่วยให้แก้ไขปัญหาได้ตรงจุดมากขึ้น เช่น ฝุ่นตะกอน สนิม ตะกรัน สารเคมี
  3. ปริมาณการใช้น้ำ: คำนวณปริมาณน้ำที่ใช้ต่อวัน เพื่อคำนวณสารกรองให้เหมาะสมและได้คุณภาพน้ำที่มีประสิทธิภาพ
  4. วัตถุประสงค์การใช้น้ำ: แจ้งคุณภาพน้ำที่ต้องการนำไปใช้ เพื่อแนะนำสารกรองและเกรดของสินค้าได้เหมาะสม เช่นอุตสาหกรรมด้านอาหารและยา ต้องใช้สารกรองที่เป็น Food Grade เท่านั้น

 

Filter-Calculation

 

เพราะฉะนั้นก่อนการตัดสินใจติดตั้งเครื่องกรองน้ำใช้ วินวอเตอร์ขอแนะนำให้เพื่อน ๆ นำน้ำดิบไปตรวจสภาพน้ำเบื้องต้นเพื่อความมั่นใจ 

 

อายุการใช้งานสารกรองแต่ละประเภท

สารกรองทุกชนิดเมื่อผ่านการใช้งานมาระยะหนึ่งเราควรทำการล้างสารกรอง เพราะจะช่วยยืดอายุการใช้งานอุปกรณ์และสารกรองให้นานขึ้น ช่วยประหยัดต้นทุนและได้น้ำที่สะอาดตลอดเวลา

Clean-water

  • การล้างสารกรองควรทำทุกๆ 1-2 สัปดาห์ล้างโดยการ Back wash 15-20 นาที หรือจนเห็นน้ำใสจะยิ่งทำให้ใช้งานได้ดีมาก
  • โดยปกติ แอนทราไซต์  แมงกานีส และสารกรองคาร์บอน อายุการใช้งาน อยู่ที่ประมาณ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับแหล่งน้ำ และสภาพน้ำดิบ

 

ต้องยอมรับว่า น้ำที่ผ่านการใช้สารกรองโดยเฉพาะน้ำบาดาล จะเห็นถึงความแตกต่างได้ชัดเจน ทั้งนี้ทั้งนั้น การบำรุงรักษาโดยการเปลี่ยนสารกรองตามรอบเวลาที่กำหนดจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก

เพราะหากปล่อยเวลาล่วงเลย สารกรองเหล่านั้นอาจเกิดการจับตัวเป็นก้อน คุณภาพการกรองจะลดลง และอาจทำให้ในการเปลี่ยนครั้งต่อไปใช้เวลาในการเปลี่ยนนานนั่นเอง

และที่สำคัญ การ Back Wash ตัวสารกรองก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เนื่องจากในการติดตั้งครั้งแรก อาจมีเรื่องของความดำ และความลื่นของน้ำที่เกิดมาจากสารกรอง ปัญหาเหล่านี้ส่วนหนึ่งมาจากการ Back Wash ในระยะเวลาที่ไม่มากพอนั่นเอง

 

ประโยชน์ของการกรองน้ำใช้

benefit-of-water-filter

  • มั่นใจน้ำสะอาด ไร้กลิ่น สี คลอรีน ที่ไม่พึงประสงค์
  • ลดคราบตะกรัน ที่สร้างปัญหาบนสุขภัณฑ์ต่อเนื่องไม่รู้จบ
  • ซักผ้าได้สะอาด ลดคราบหินปูน คราบสกปรกในเครื่องใช้ไฟฟ้า
  • ลดเชื้อโรค แบคทีเรีย และสิ่งสกปรกต่าง ๆ สามารถเล็ดลอดจากภายนอกเข้ามาภายในท่อน้ำตามรอยแตกของท่อ
  • ยืดอายุการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้า สุขภัณฑ์ในบ้าน

 

สรุป

เนื่องจากเครื่องกรองน้ำเป็นสินค้าที่ใช้สำหรับปรับสภาพน้ำเพื่อบริโภค ไส้กรอง อุปกรณ์ และอะไหล่ ควรได้รับการบำรุงรักษาตามอายุการใช้งานเพื่อความสะอาดและปลอดภัย ดังนั้นควรมั่นใจว่าทางผู้ผลิตหรือผู้จำหน่ายมีบริการหลังการขายให้ลูกค้า

winwater-service

 

ช่างวินยินดีให้คำปรึกษาระบบกรองน้ำทุกรูปแบบด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญด้านระบบกรองน้ำ วินวอเตอร์เครื่องกรองน้ำ พร้อมดูแลคุณมากกว่าใคร #เครื่องกรองน้ำหาดใหญ่ #วินวอเตอร์เครื่องกรองน้ำ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *